บ้าน หรือ คอนโด การเลือกว่าจะอยู่บ้านหรือคอนโดนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยความปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงลักษณะของพื้นที่ที่อาศัย การออกแบบของบ้านหรือคอนโด รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ในแต่ละสถานที่

บ้าน หรือคอนโดปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วม, แผ่นดินไหว)
- บ้าน: บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือใกล้แม่น้ำอาจเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ บ้านที่สร้างบนพื้นที่ที่ไม่เสถียร (เช่น พื้นที่ลาดชัน) อาจเสี่ยงต่อการถล่มหรือแผ่นดินไหวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการวางแผนการพัฒนาอย่างดีสามารถใช้ฐานรากที่มั่นคงเพื่อป้องกันภัยจากธรรมชาติได้ดี
- คอนโด: คอนโดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สูงขึ้น เช่น อาคารที่มีชั้นหลายชั้นอาจหลีกเลี่ยงการถูกน้ำท่วมได้ แต่ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว การที่คอนโดอยู่สูงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงจากการสั่นสะเทือนมากขึ้น ในบางกรณีอาจมีระบบการก่อสร้างที่ดีกว่าเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือน
บ้าน หรือคอนโดปลอดภัยจากการโจรกรรม
- บ้าน: บ้านมักมีการเข้าถึงง่ายกว่าคอนโด เนื่องจากอาจมีทางเข้าหลายจุดและประตูหน้าต่างที่อาจไม่ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเท่าคอนโด บ้านบางหลังอาจไม่มีรั้วหรือระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทำให้มีความเสี่ยงจากการโจรกรรม
- คอนโด: คอนโดส่วนใหญ่มีการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าบ้าน โดยมีระบบคีย์การ์ดหรือการตรวจสอบบุคคลที่เข้า-ออกอาคาร มีรปภ. และมักมีประตูหรือรั้วรอบขอบชิด ทำให้ยากในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคอนโดจึงมักจะปลอดภัยจากการโจรกรรมมากกว่า
การรักษาความปลอดภัยทางสุขภาพ (เช่น การแพร่ระบาดของโรค)
- บ้าน: บ้านส่วนตัวมักมีพื้นที่กว้างขวางและอิสระในการจัดการระบบสุขาภิบาลและการทำความสะอาด ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดีกว่าคอนโด โดยไม่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกับผู้อื่น
- คอนโด: คอนโดมักจะมีการใช้พื้นที่ร่วมกัน เช่น ลิฟต์, ชั้นล่าง, ทางเดิน ซึ่งหากมีผู้ติดเชื้อในอาคารเดียวกัน อาจมีโอกาสในการแพร่กระจายของโรคได้ง่ายขึ้น การระบายอากาศในบางคอนโดอาจไม่ดีเท่าบ้าน แต่บางคอนโดที่มีระบบการจัดการที่ดี (เช่น ระบบระบายอากาศที่ดีและพื้นที่สาธารณะที่สะอาด) ก็อาจลดความเสี่ยงได้
การรักษาความปลอดภัยจากอัคคีภัย
- บ้าน: บ้านที่สร้างจากวัสดุที่ทนไฟ และมีการออกแบบที่ดี เช่น ช่องทางหนีไฟที่ชัดเจน มีระบบดับเพลิงที่เหมาะสมจะช่วยให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย แต่ถ้าบ้านไม่ได้มีการออกแบบที่ดีหรือระบบการระบายควันไม่ดีอาจมีความเสี่ยง
- คอนโด: คอนโดมักมีการออกแบบที่มีช่องทางหนีไฟหลายจุด และมีระบบดับเพลิงในอาคาร เช่น สัญญาณเตือนภัยและสปริงเกอร์ แต่การอพยพในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ในคอนโดที่มีชั้นสูงอาจยุ่งยากและอันตรายกว่าบ้านที่มีชั้นเดียวหรือไม่สูงมาก
บ้าน หรือคอนโด มีดูแลรักษาความปลอดภัยของเด็กและสัตว์เลี้ยง
- บ้าน: บ้านส่วนตัวมีพื้นที่มากกว่าให้เด็กและสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นได้ แต่ก็มีความเสี่ยงจากการเดินออกจากบ้านหรือการเล่นในพื้นที่ที่อาจมีอันตราย (เช่น ใกล้ถนน) ดังนั้นการดูแลรักษาความปลอดภัยในบ้านต้องขึ้นอยู่กับความระมัดระวังของเจ้าของบ้าน
- คอนโด: คอนโดมักมีพื้นที่จำกัด ซึ่งทำให้การควบคุมการเล่นของเด็กและสัตว์เลี้ยงอาจทำได้ยาก แต่ในบางคอนโดอาจมีสนามเด็กเล่นหรือพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะสมสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง ที่สำคัญคือระบบรักษาความปลอดภัยในคอนโดมักจะดี ทำให้เด็กและสัตว์เลี้ยงอาจมีความปลอดภัยมากขึ้นจากภัยภายนอก
สรุป
การเลือกว่าจะอยู่บ้านหรือคอนโดนั้นทั้งสองอย่างมีความปลอดภัยที่แตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่และการจัดการระบบความปลอดภัย ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยจากการโจรกรรมและอัคคีภัย คอนโดอาจจะดีกว่า เนื่องจากมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่า ขณะที่บ้านอาจมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหวมากกว่า
อย่างไรก็ตามการเลือกที่อยู่อาศัยจะต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายส่วนตัว และลักษณะการใช้ชีวิต และวัสดุในการใช้ก่อสร้างด้วย เพราะถ้ามีความแข็งแรงจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเท่าๆกันก็จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นหลักแทน ถ้าอยู่บ้านไม่ทำอะไรนั่งกดหวยไวทั้งวัน เน้นไปเที่ยวในเมืองคอนโดก็อาจจะตอบโจทย์กว่า
แต่ถ้าอย่างอยู่ในพื้นที่ที่ไม่วุ่นวาย แต่มีหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด และใช้วัสดุการสร้างที่แข็งแรงการอยู่บ้านก็ตอบโจทย์กว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบไลฟ์สไตล์และตัวบ้านด้วยครับ
No responses yet